คณะทำงานในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ต่างออกมาชี้แจงว่า สหรัฐได้มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย ไม่ใช่การโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ภารกิจอันดับแรกของสหรัฐคือความพ่ายแพ้ของ IS และเมื่อเราสามารถจัดการกับ IS ได้แล้ว หลังจากนั้นจะหันไปสนใจที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน โดยที่นายเฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ ได้อ้างถึงคำพูดดังกล่าวของนายทิลเลอร์สัน เมื่อถูกตั้งคำถามถึงนโยบายของปธน.ทรัมป์ หลังจากที่ได้โจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหรัฐได้เปิดฉากยิงถล่มซีเรียด้วยขีปนาวุธโทมาฮอว์คจำนวนเกือบ 60 ลูก หลังจากที่รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ได้มีการใช้แก๊สโจมตีกลุ่มกบฏในจังหวัดอิดลิบ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในซีเรียอย่างน้อย 85 คนเสียชีวิต และในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วยถึง 27 คน
คำสั่งดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดยฝ่ายที่เห็นด้วยเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียควรได้รับบทเรียนจากการใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน ขณะที่บางกลุ่มก็ตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า การที่ปธน.ทรัมป์ออกคำสั่งโจมตีซีเรียโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือไม่