กระทรวงกลาโหมสหรัฐเริ่มทบทวนสถานการณ์ด้านอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ และจะส่งรายงานฉบับสุดท้ายให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงปลายปีนี้
นายดานา ไวท์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า "นายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้เริ่มกระบวนการทบทวนสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, รองประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรร่วม"
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ The Hill รายงานว่า นายทรัมป์มีคำสั่งเมื่อเดือนม.ค. ให้พิจารณาสถานการณ์ด้านอาวุธนิวเคลียร์ และเตรียมความพร้อมของกองทัพ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการยับยั้งนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความทันสมัย, แข็งแกร่ง, ยืดหยุ่น, มีความพร้อม และเป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อยับยั้งภัยคุกคามในศตวรรษที่ 21 และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรของสหรัฐ
นายอดัม สมิธ ผู้บัญญัติกฎหมายของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของสภาผู้แทน เปิดเผยวานนี้ว่า เขาคาดหวังว่าการพิจารณาครั้งนี้จะเป็นไปอย่างรอบคอบเพื่อทบทวนถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับเรื่องความแข็งแกร่งของคลังแสงนิวเคลียร์ที่มีมูลค่าสมเหตุสมผล"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายสมิธเพิ่มเติมว่า "การทบทวนถึงบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาความมั่นคงทางยุทธศาสตร์และป้องกันการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์นั้นมีการดำเนินการมาโดยตลอดตั้งแต่อดีต"
"ผมหวังว่าการทบทวนนโยบายในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการทุ่มงบประมาณไปกับการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่มีราคาสูงและอันตราย รวมถึงการวิเคราะห์ความเสี่ยงที่แท้จริงอันเนื่องมาจากการลดเกณฑ์ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วย" เขาทิ้งท้าย