กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนือเลิกแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนือจะเข้ามาสร้างความแตกแยก ภายหลังจากที่หนังสือพิมพ์ Rodong Sinmun ของเกาหลีเหนือได้ตีพิมพ์บทวิจารณ์การเมืองของเกาหลีใต้
บทวิจารณ์ดังกล่าวมีเนื้อความว่า พรรคลิเบอร์ตี้ โคเรีย หรือพรรคแซนูรีเดิม ไม่ควรกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ซึ่งทางเกาหลีใต้มองว่าเป็นความพยายามในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้นวันที่ 9 พ.ค.นี้
ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า บทวิจารณ์ดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสร้างความแตกแยกในกลุ่มผู้ลงคะแนนเลือกตั้งในเกาหลีใต้
ทั้งนี้ พรรคแซนูรี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคลิเบอร์ตี้ โคเรีย (Liberty Korea Party) โดยมีจุดประสงค์เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของพรรค ที่ย่ำแย่ลงรับคดีอื้อฉาวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น จนนำไปสู่การถอดถอนประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ
สำหรับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว ก่อนที่การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนนางปาร์ค กึน เฮ ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับจำนวนผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้มีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15 คน โดยมีตัวเต็ง 2 คน คือ นายมูน แจ อิน จากพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี (DPK) ซึ่งครองเสียงข้างมากในรัฐสภา และนายอัน ชิล ซู จากพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้
นายอัน วัย 55 ปี ซึ่งเป็นอดีตแพทย์และนักพัฒนาซอฟแวร์แอนตี้ไวรัส ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้แข่งกับนายมูนวัย 64 ปี อดีตนักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีโรห์ มู ยุน โดยนายมูนเคยลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2555 แต่ได้พ่ายแพ้ให้กับนางปาร์ค กึน เฮ จากพรรคแซนูรี ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคลิเบอร์ตี้ โคเรีย
โพลล์หลายสำนักชี้ว่า นายมูนยังคงมีคะแนนนำเหนือนายอันเล็กน้อย โดยโพลล์สำรวจซึ่งจัดทำโดยแกลลัพ โคเรีย ระบุว่า คะแนนสนับสนุนนายมูนอยู่ที่ 40% จากวันอังคารถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่คะแนนสนับสนุนของนายอันอยู่ที่ 37%