นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาอย่างจริงในเรื่องการย้ายสถานทูตสหรัฐในอิสราเอล ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
"ตามที่ผมเคยพูดไปแล้ว ท่านประธานาธิบดีกำลังพิจารณากำลังพิจารณาอย่างจริงจัง ในเรื่องการย้ายสถานทูตสหรัฐในเมืองเทล อาวิฟ ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม" นายเพนซ์กล่าวในพิธีฉลองวัน Independence Day ของอิสราเอล
นายเพนซ์ยังกล่าวด้วยว่า ปธน.ทรัมป์มีความมุ่งมั่นที่จะคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาไลสไตน์
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า ความพยายามในการย้ายสถานทูตสหรัฐไปยังกรุงเยรูซาเล็มซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับโลกอาหรับนั้น จะมีส่วนช่วยคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้หรือไม่
ทั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้ออกมาระบุถึงความเป็นไปได้ในการย้ายสถานทูตสหรัฐไปยังกรุงเยรูซาเล็ม โดยความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนั้นมีขึ้นก่อนที่นายมาห์หมุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ จะเดินทางเยือนทำเนียบขาวในวันนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ทางฝั่งปาเลสไตน์ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐ
ทั้งนี้ แม้สภาคองเกรสสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมาย Jerusalem Embassy Act เมื่อปี 2538 ให้ย้ายสถานทูตสหรัฐออกจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเล็ม แต่อดีตปธน.สหรัฐ ซึ่งรวมถึงจอร์จ ดับเบิลยู บุช, บิล คลินตัน และบารัค โอบามา ก็ได้ประวิงเวลาการย้ายสถานทูตสหรัฐไปยังเยรูซาเล็ม
สถานะของเยรูซาเล็มยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยจนถึงขณะนี้ นานาประเทศไม่ได้ยอมรับว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และยังไม่มีประเทศใดเข้าไปตั้งสถานทูตในเยรูซาเล็มเช่นกัน