สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สั่งการให้นายเจมส์ โคมีย์ ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับรัฐบาลรัสเซีย ก่อนที่ทรัมป์จะสั่งปลดนายโคมีย์พ้นจากเก้าอี้ผู้อำนวยการ FBI ชนิดสายฟ้าแลบ
ด้านทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว โดยแถลงการณ์ระบุว่ารายงานที่ว่านี้ไม่เป็นความจริง หลังเกิดกระแสความวิตกกังวลว่ารัฐบาลกำลังพยายามแทรกแซงการทำงานของ FBI
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งปลดนายโคมีย์ตามคำแนะนำของนายนายเจฟ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายร็อด โรเซนสไตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้เหตุผลว่า นายโคมีย์ขาดคุณสมบัติในการกุมบังเหียนผอ. FBI เนื่องจากเขามีความบกพร่องในการตรวจสอบคดีอีเมลอื้อฉาวของนางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นคู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิก เอลิซาเบธ วอร์เรน จากเดโมแครต ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับเอ็มเอสเอ็นบีซี โดยตั้งข้อสังเกตว่า "นายโคมีย์ไม่ได้ถูกไล่ออกเพราะนางฮิลลารี แต่ด้วยเหตุผลที่เขากำลังตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกับรัฐบาลรัสเซีย
ก่อนหน้านี้พลโท ไมเคิล ฟลินน์ ก็ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของปธน.ทรัมป์ สืบเนื่องจากที่เขาได้แอบติดต่อกับรัสเซีย
การประกาศลาออกของนายฟลินน์มีขึ้นท่ามกลางข่าวฉาวที่ว่า เขาได้ติดต่อกับรัสเซียก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยมีรายงานว่า นายฟลินน์ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องการยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐ