พลเอกเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เปิดเผยว่า นาโต้เตรียมจัดทำแผนการใช้งบประมาณทางทหารประจำปี หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ยืนกรานให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
"วันนี้ เราได้ตัดสินใจที่จะจัดทำแผนแห่งชาติประจำปี ซึ่งเป็นข้อตกลงที่บรรดาประเทศพันธมิตรตั้งใจว่า จะจัดสรรงบกลาโหม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนด้านกลาโหมที่เคยให้คำมั่นไว้มาตั้งแต่ปี 2557" พลเอกเจนส์ กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมสุดยอด
แผนการใช้งบประมาณจะครอบคลุม 3 ประเด็นหลักๆด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย ประเด็นด้านเงินสด ศักยภาพความสามารถในด้านต่างๆ และการให้งบช่วยเหลือ
ประเทศสมาชิกกลุ่มนาโต้ จะร่วมกันวางแผนว่า จะบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการเพิ่มงบประมาณทางกองทัพของนาโต้ขึ้นเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ซึ่งส่งผลให้ทรัมป์ออกมาวิจารณ์นโยบายดังกล่าว
นอกจากนี้จะมีการหารือกันในประเด็นว่าด้วยการใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเสริมกำลังกองทัพด้านหลัก ๆ และการปฏิบัติตามพันธกิจ และความร่วมมือด้านอื่น ๆ
นายสโตลเตนเบิร์ก เปิดเผยว่า รายงานชุดแรกของแผนแห่งชาติจะเสร็จสิ้นภายในเดือนธ.ค. ปีนี้ และจะได้รับการพิจารณาต่อโดยคณะรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในเดือนก.พ.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มติของนาโต้เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ได้วิจารณ์ประเทศสมาชิกนาโต้หลายประเทศว่า "ติดค้างเงินก้อนใหญ่มาตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และไม่มีการชำระเงินใด ๆ ในช่วงดังกล่าว"
ทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์ด้วยว่า สถานการณ์ดังกล่าว "ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนและผู้ที่เสียภาษีของสหรัฐ"