นิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐวิจารณ์ชาวเยอรมันว่า "ร้ายกาจ" หลังจากที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมนีในปีที่แล้ว
"พวกนั้นขายรถเป็นล้านๆคันในอเมริกา นี่มันเลวร้ายสุดๆ เราจะยุติเรื่องนี้"
รายงานระบุว่า การเปิดเผยของผู้นำสหรัฐมีขึ้นระหว่างพบกับผู้นำยุโรป ได้แก่ นายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุม G7 ที่เมืองตาออร์มินา ประเทศอิตาลีในเวลาต่อมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีอัลเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี ก็ได้เข้าร่วมการประชุม G7 นัดนี้ด้วย
Der Spiegel ระบุว่า การลดการขาดดุลการค้าสหรัฐถือเป็นภารกิจลำดับแรกสุดของผู้นำสหรัฐ โดยเขาได้ตำหนิการเกินดุลการค้าของเยอรมนีว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้า และให้คำมั่นว่าจะยุติการจำหน่ายรถยนต์เยอรมันในสหรัฐ
รายงานเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุม นายยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงออกไม่เห็นด้วยกับปธน.ทรัมป์ และปกป้องแนวคิดการค้าเสรี
ในเวลาต่อมา นายแกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NEC) ได้ออกมาขยายความคำพูดของปธน.ทรัมป์ โดยระบุว่า ปธน.ทรัมป์เชื่อว่าเยอรมนีร้ายกาจ เรื่อง "การค้า" เท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับประเทศเยอรมนีในภาพรวม และบิดาของทรัมป์เองก็มาจากเยอรมนี
สำหรับเฟรด ทรัมป์ บิดาของปธน.ทรัมป์ เกิดในมหานครนิวยอร์กและมีเชื้อสายเยอรมัน เนื่องจากบิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวเยอรมัน
ปธน.ทรัมป์เคยวิจารณ์การค้าของเยอรมนีมาแล้ว โดยในเดือนม.ค. เขาได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ Bild ว่า การค้ารถยนต์ของเยอรมนี "ห่างไกลจากความสมดุล"
ในปี 2559 สหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมนี 6.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลมากที่สุดอันดับ 2 รองจากจีน การนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกจากเยอรมนีเป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้าดังกล่าวคิดเป็น 1 ใน 4