นายรีอัด คาวาจี ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยทางทหารตะวันออกใกลและอ่าวอาหรับ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองดูไบ กล่าวแสดงความเห็นว่า กาตาร์กำลังตกอยู่ในภาวะถูกต้อนเข้ามุมในวิกฤตการณ์อ่าวอาหรับครั้งนี้ และหนทางเดียวที่จะขจัดสภาวะถูกโดดเดี่ยวได้ก็คือ การยอมประนีประนอม
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์และร่วมกันตัดเส้นทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ โดยกล่าวหาว่า กาตาร์สนับสนุนการก่อการร้าย
นอกจากนี้ เยเมน ลิเบีย และมัลดีฟส์ ยังตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์อีกด้วย
นายคาวาจีได้แสดงความเห็นผ่านอีเมลว่า ความขัดแย้งทางการทูตระหว่างกลุ่มประเทศอาหรับและกาตาร์ ทำให้ภูมิภาคแห่งนี้กลับเข้าสู่ยุคที่ซาอุดิอาระเบียกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง ซึ่งจะไม่ยอมให้กาตาร์ดำเนินนโยบายการเมืองในลักษณะที่คลุมเครือได้
นายคาวาจีอธิบายว่า การเมืองในลักษณะคลุมเครือหมายความว่า กาตาร์จะยังคงเป็นประเทศสมาชิกที่แข็งแกร่งและมีบทบาทสำคัญในคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งมีซาอุดิอาระเบียเป็นผู้นำ แต่ในขณะเดียวกันกาตาร์กลับดำเนินนโยบายและแสดงจุดยืนที่ขัดต่อหลักการของกลุ่ม GCC โดยจุดยืนดังกล่าวของกาตาร์ได้แก่ การยกย่องอิหร่านว่าบทบาทในการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค และให้การสนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม หรือ มุสลิมบราเธอร์ฮูด