ทำเนียบขาวได้ออกโรงป้องคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ในการห้ามประชาชนจาก 6 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าประเทศ หลังศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐในนครซานฟรานซิสโกมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังทบทวนคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ที่ว่า คำสั่งห้ามมุสลิมเข้าประเทศของปธน.ทรัมป์นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยเขามั่นใจว่า ท้ายที่สุดแล้วปธน.ทรัมป์จะพิสูจน์ตนเองได้
ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งห้ามเข้าประเทศฉบับปรับปรุงเมื่อปลายเดือนม.ค. ซึ่งจะห้ามไม่ให้ประชาชนจาก 6 ชาติมุสลิมในตะวันออกกลางและแอฟริกาเดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลาชั่วคราว หลังจากที่คำสั่งห้ามฉบับแรกถูกศาลภาค 9 สกัดไว้
โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า "ผมคิดว่าพวกเราทุกคนคงเห็นตรงกันว่าขณะนี้เป็นเวลาที่อันตรายอย่างยิ่ง โดยเราจำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมือที่มีในการป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา ป้องกันไม่ให้เกิดการนองเลือดและความรุนแรง"
เขากล่าวว่า "เรายังคงมีความเชื่อมั่นว่า คำสั่งของปธน.ในการปกป้องชาตินี้เห็นชอบด้วยกฎหมาย และท้ายที่สุดก็จะได้รับการสนับสนุนในศาลฎีกา"
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐในนครซานฟรานซิสโกมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในวันนี้ ให้ยกเลิกคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการห้ามประชาชนจาก 6 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสู่สหรัฐ
ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยดังกล่าว หลังจากที่ได้พิจารณาคำตัดสินในเดือนมี.ค.ของศาลชั้นต้นในรัฐฮาวายซึ่งได้มีคำตัดสินระงับคำสั่งของปธน.ทรัมป์
นอกจากนี้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐ ยังสอดคล้องกับคำตัดสินก่อนหน้านี้ของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ของสหรัฐในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนียในวันที่ 25 พ.ค. ที่มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในรัฐแมรี่แลนด์ที่ให้ยกเลิกคำสั่งของปธน.ทรัมป์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐมีคำวินิจฉัยว่า ปธน.ทรัมป์ได้ใช้อำนาจเกินกว่าที่ได้รับมอบหมายจากสภาคองเกรส และคำสั่งของปธน.ทรัมป์ได้ละเมิดบทบัญญัติที่ได้ห้ามการกีดกันทางด้านเชื้อชาติ ขณะที่ปธน.ทรัมป์จะต้องดำเนินการตามกระบวนการเฉพาะในการกำหนดจำนวนผู้ลี้ภัยที่จะเข้าสู่สหรัฐในแต่ละปี