สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลมาเลเซียว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ตัดสินใจระงับการออกใบอนุญาตทำงานสำหรับแรงงานชาวเกาหลีเหนือ หลังจากทราบแน่ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อต้นปีนี้เป็นการลอบสังหาร
ทั้งนี้ มาเลเซียและเกาหลีเหนือเคยมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรต่อกัน ทว่าเมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมดังกล่าว ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจมาเลเซียได้เปิดเผยว่ามีชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากเกี่ยวพันกับคดีนี้ ความสัมพันธ์จึงสั่นคลอนลงอย่างรวดเร็ว
มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของมาเลเซียที่นำมาใช้ต่อเกาหลีเหนือในครั้งนี้ เป็นไปตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ ที่ต้องการให้ตัดแหล่งเงินทุนที่เกาหลีเหนือสามารถใช้ในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธได้
อนึ่ง เกาหลีเหนือได้ส่งคนงานนับหมื่นคนไปยังประเทศจีน รัสเซีย ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่อื่น ๆ เพื่อระดมเงินเข้าสู่กองทุนจัดหาอาวุธ ซึ่งหากประเทศอื่นๆ ดำเนินการในแนวทางเดียวกับมาเลเซีย เกาหลีเหนือก็จะประสบกับสถานการณ์ถูกกดดันอย่างรุนแรง
ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยในรายงานประจำปีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า มีชาวเกาหลีเหนือ 50,000-80,000 ราย ถูกส่งไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะรัสเซียและจีนในฐานะ “แรงงานที่ถูกกดขี่"