นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้เห็นพ้องกันที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือ เพื่อให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ขณะเดียวกันก็แย้มว่า ประตูของการเจรจาจะเปิดก็ต่อเมื่อมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ในแถลงการณ์ร่วมภายหลังจากที่ผู้นำทั้งสองได้เสร็จสิ้นการหารือที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้นั้น ระบุว่า "ปธน.ทรัมป์และปธน.มูนยังคงยึดมั่นในพันธกรณีที่จะเดินหน้าใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนืออย่างเต็มที่ รวมถึงออกมาตรการลงโทษใหม่ๆเพื่อกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติพฤติการณ์ยั่วยุ และกลับเข้าสู่การเจรจาอย่างสร้างสรรค์"
ปธน.ทรัมป์และปธน.มูนกล่าวในการแถลงข่าวด้วยว่า สหรัฐและเกาหลีใต้มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า "มีเพียงการเสริมสร้างความมั่นคงให้เข้มแข็งเท่านั้น จึงจะสามารถนำมาซึ่งสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีได้อย่างแท้จริง"
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ร่วมยังมีเนื้อหาที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระดับไตรภาคีระหว่างสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยระบุว่า ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการร่วมป้องปรามและป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองจะจัดการประชุมนอกรอบระดับไตรภาคีร่วมกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น เพื่อหารือกันเกี่ยวกับนโยบายต่อเกาหลีเหนือ บนเวทีประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค.