สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัสเซีย ตุรกี และอิหร่าน ได้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อผลักดันความคืบหน้าในการสร้างเขตลดความรุนแรงในประเทศซีเรีย
แถลงการณ์ร่วมของ 3 ประเทศระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งในซีเรียสามารถแก้ได้ด้วยวิธีการทางการเมืองเท่านั้น และทั้ง 3 ประเทศต่างก็ให้ความเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย โดยรัสเซีย ตุรกี และอิหร่านจะยังคงจัดการเจรจาร่วมกันต่อไปเพื่อความคืบหน้าในการจัดตั้งเขตลดความรุนแรง
ความตกลงดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมสันติภาพครั้งล่าสุด ที่กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน และเสร็จสิ้นลงเมื่อวันพุธ โดยมีตัวแทนจากฝ่ายต่างๆเข้าร่วม ได้แก่ ตัวแทนจากรัฐบาลซีเรีย กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย รัสเซีย ตุรกี และอิหร่าน รวมถึงผู้สังเกตการณ์จากองค์การสหประชาชาติ สหรัฐ และจอร์แดน สำหรับการประชุมสันติภาพครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนส.ค.ที่กรุงอัสตานา
นายอเล็กซานเดอร์ ลาฟเรนเทียฟ ตัวแทนจากรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซีย ตุรกี และอิหร่าน ได้ร่วมเจรจากันใน 7 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลไกในการจัดตั้งเขตลดความรุนแรงในซีเรีย การสร้างศูนย์ประสานงานเพื่อติดตามการปฏิบัติงาน การส่งกำลังทหาร รวมถึงวิธีการในการใช้กำลังในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่าประเทศใดจะส่งกำลังพลเข้าดูแลสถานการณ์ในเขตลดความรุนแรง อย่างไรก็ดี รัสเซียได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะร่วมส่งทหารเข้าประจำการในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. รัสเซีย ตุรกี และอิหร่าน ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสร้างเขตลดความรุนแรงในซีเรีย โดยมึเป้าหมายเพื่อบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ท่ามกลางภาวะสงครามในประเทศที่ดำเนินมายาวนานถึง 7 ปี