รัฐบาลสหรัฐได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมอภิปรายว่าด้วยสนธิสัญญาห้ามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ที่ประเทศคาซัคสถานในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ สหรัฐยังกดดันไม่ให้บรรดาประเทศพันธมิตรเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในอีเมลที่สหรัฐตอบกลับคำเชิญให้ร่วมประชุม Nuclear Discussion Forum นัดแรกของคาซัคสถานนั้น สหรัฐระบุว่า "รัฐบาลสหรัฐจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาห้ามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงการประชุมครั้งนี้ด้วย"
นอกจากนี้ สหรัฐยังเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรงดเข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย พร้อมกับย้ำว่า "จุดยืนของเราในเรื่องสนธิสัญญาดังกล่าวนั้นมีความชัดเจน และจะไม่เปลี่ยนแปลง"
ทั้งนี้ ประเทศที่เข้าร่วมประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยอาวุธนิวเคลียร์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีกำหนดจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นอกจากนี้ประเทศต่างๆจะอภิปรายถึงแนวทางที่จะผลักดันให้ข้อตกลงเดินหน้าอีกด้วย
รายงานระบุว่า นอกเหนือจากสหรัฐแล้ว ประเทศมหาอำนาจที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองอย่างอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และรัสเซีย ต่างก็ไม่เข้าร่วมเจรจาครั้งนี้เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า สนธิสัญญาดังกล่าวขัดต่อพันธกรณีของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty) ที่ประเทศเหล่านี้ได้ลงนามรับรองก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีจุดยืนต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์มาอย่างยาวนาน โดยในช่วงทศวรรษ 1990 คาซัคสถานได้ละทิ้งหัวรบนิวเคลียร์ที่ครอบครองในสมัยที่ยังเป็นสมาชิกสหภาพโซเวียตจำนวนกว่า 1,400 หัวรบ นอกจากนี้ คาซัคสถานยังได้เรียกร้องให้มีการกำจัดอาวุธดังกล่าวให้สิ้นซากอีกด้วย