การประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี ระหว่างวันที่ 7 - 8 ก.ค. ได้ปิดฉากลงแล้ว โดยผู้นำประเทศสมาชิกสามารถประนีประนอมกันได้ในประเด็นการค้า ด้วยการแสดงจุดยืนที่ยอมรับทั้งการค้าเสรีและรูปแบบการกีดกันทางการค้าบางประเภท
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่สามารถหาจุดยืนโดยสมบูรณ์ในประเด็นแก้ปัญหาโลกร้อน เนื่องจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า เขาได้ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวออกจากความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
สำนักข่าวเกียวโดได้สรุปสาระสำคัญของแถลงการณ์จากผู้นำกลุ่ม G20 เอาไว้ดังนี้
ผู้นำกลุ่ม G20:
- ให้คำมั่นต่อต้านการกีดกันทางการค้า อาทิ พฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมทุกรูปแบบ และจะเดินหน้าเปิดกว้างตลาดต่อไป
- ยอมรับ " มาตรการปกป้องทางการค้าอันชอบธรรม" ในการใช้กับประเทศคู่ค้าที่ไม่ยุติธรรม
- เห็นพ้องในการใช้เครื่องมือนโยบายทุกรูปแบบเพื่อจะบรรลุการเติบโตที่สมดุลและรอบด้าน
- จะมุ่งมั่นลดความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลกซึ่งมีอยู่สูงเกินไป
- ยังคงยึดมั่นฉันทามติเดิมในประเด็นนโยบายสกุลเงิน
- ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อความตกลงปารีสโดยจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว และให้ความสนใจมติของสหรัฐในการถอนตัวจากความตกลงดังกล่าว
- ให้คำมั่นต่อต้านการก่อการร้ายและตัดท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มก่อการร้าย
- ส่งเสริมมาตรการแก้ปัญหากำลังผลิตส่วนเกิน อาทิ กำลังผลิตส่วนเกินของเหล็กกล้า
การประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองฮัมบูร์กในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Shaping an Interconnected World" (สร้างโลกที่เชื่อมต่อกัน) ส่วนการประชุมในปี 2561 จะมีเจ้าภาพคืออาร์เจนตินา ตามด้วยญี่ปุ่นในปี 2562 และซาอุดิอาระเบียในปี 2563
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป