นายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ร่วมหารือกับ นายรี ยง-โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ ที่กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์วันนี้ หลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม เพื่อตอบโต้การท้าทายพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีน ระบุว่า การพูดคุยครั้งนี้มีขึ้นที่กรุงมะนิลา นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 10 ชาติอาเซียน และตัวแทนจากประเทศอื่นๆเกือบ 20 ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้มีมติเห็นชอบในการออกมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นต่อเกาหลีเหนือ โดยมุ่งตัดรายได้จากการส่งออกของเกาหลีเหนือลงจาก 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ให้เหลือเพียง 1 ใน 3 หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ถึง 2 ครั้งในเดือนที่แล้ว
มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดนี้ ครอบคลุมถึงการห้ามส่งออกถ่านหิน, เหล็ก, แร่เหล็ก, ตะกั่ว, แร่ตะกั่ว และอาหารทะเลของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ร่างมติที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากการเสนอโดยสหรัฐอเมริกานี้ ยังมีจุดประสงค์เพื่อห้ามไม่ให้สมาชิกองค์การสหประชาชาติจ้างแรงงานเกาหลีเหนือที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ขณะที่จีนและรัสเซีย สองในห้าประเทศที่สามารถใช้สิทธิ์วีโต้ในฐานะสมาชิกถาวรของ UNSC ยับยั้งการลงมติได้ ในที่สุดก็ได้ลงมติเห็นชอบกับมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะเห็นว่ามาตรการนี้เป็นการสร้างความกดดันให้กับเกาหลีเหนือมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารมว.ต่างประเทศจีนและเกาหลีเหนือพูดคุยอะไรกันบ้าง แต่คาดว่า รมว.ต่างประเทศจีนอาจจะแนะนำให้เกาหลีเหนือยุติการทดลองอาวุธทั้งหมดที่เป็นการละเมิดมติ UNSC และหลีกเลี่ยงการสร้างความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนนับเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดและยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการทูตคนสำคัญของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ประเด็นเรื่องการทดลองขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือก็คาดว่าจะเป็นหัวข้อสำคัญที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยในที่ประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ARF) ซึ่งจัดขึ้นที่ฟิลิปปินส์ โดยมีรัฐมนตรีจาก 27 ประเทศ รวมถึงเกาหลีเหนือเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย