สเปนยืนยันจัดการกลุ่มตัวการเหตุโจมตีบาร์เซโลนาได้หมดแล้ว แต่ยังไม่เลิกสืบสวน

ข่าวการเมือง Tuesday August 22, 2017 10:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กรมตำรวจแคว้นคาตาโลเนียยืนยันว่า กลุ่มก่อการร้ายเบื้องหลังเหตุโจมตีเมืองบาร์เซโลนาและเมืองแคมบริลส์ของสเปน ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 12 รายนั้น ได้สลายลงแล้วหลังมีสมาชิกถูกจับกุม 4 ราย ส่วนที่เหลืออีก 8 รายถูกวิสามัญ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ขับรถตู้พุ่งชนคนในนครบาร์เซโลนาและเมืองแคมบริลส์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน และบาดเจ็บกว่า 130 คน โดยการโจมตีสเปนในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตำรวจแคว้นคาตาโลเนียได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าวขณะแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้ หลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการวิสามัญฆาตกรรมนายยูเนส อาบูยาคูบ วัย 22 ปี ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้ที่ขับรถพุ่งชนคนในนครบาร์เซโลนา

นายอาบูยาคูบถูกยิงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ในเมืองซูบิรัตส์ ห่างจากนครบาร์เซโลนาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร โดยขณะนั้นนายอาบูยาคูบได้สวมเสื้อกั๊กติดระเบิดปลอม

ตำรวจแคว้นคาตาโลเนีย ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่า "เรายืนยันว่าผู้ที่ถูกยิงที่เมืองซูบิรัตส์มีชื่อว่านายยูเนส อาบูยาคูบ ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายที่เมืองบาร์เซโลนา"

ทวีตดังกล่าวระบุว่า "นับจนถึงวันนี้ ผู้ก่อเหตุโจมตีเมืองบาร์เซโลนาและเมืองแคมบริลส์ถูกจับกุมแล้ว 4 ราย ส่วนผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายนั้นถูกยิงเสียชิวิตอีก 8 ราย"

ตำรวจแคว้นคาตาโลเนีย เปิดเผยว่า "บุคคล 12 รายที่เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีครั้งนี้ได้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ก็ถูกจับกุมอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลิกสืบสวน โดยเราจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป"

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มีสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวเสียชีวิต 2 ราย จากเหตุระเบิดที่บ้านพักหลังหนึ่งในเมืองอัลคานาร์ ขณะที่กำลังเตรียมแผนโจมตีครั้งใหญ่โดยใช้รถตู้ 2 คัน และก๊าซบิวเทนกว่า 50 ถัง

จากนั้นในช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ คนร้าย 5 คนได้ก่อเหตุขับรถพุ่งชนคนบริเวณชายหาดเมืองแคมบริลส์ ซึ่งอยู่ทางใต้ของบาร์เซโลนา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บหลายสิบคน โดยตำรวจได้ทำการวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ก่อนที่จะระดมกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีครั้งนี้อีก 4 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ