สื่อท้องถิ่นของเมียนมารายงานในวันนี้ว่า ชาวบ้านและข้าราชการบริหารส่วนท้องถิ่นนับร้อยชีวิตในรัฐยะไข่ ได้อพยพเข้ามาอยู่ในเขตทหารและสถานีตำรวจ หลังเหตุก่อการร้ายในพื้นที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารก็ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อช่วยให้ชาวบ้านสามารถอพยพย้ายที่อยู่ชั่วคราวได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ทางการเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ประณามต่อเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ รัฐบาลเมียนมาเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 71 รายในรัฐยะไข่ จากการที่ชาวโรฮิงญาได้ลุกฮือขึ้นทำการโจมตีพร้อมกันต่อสถานีตำรวจ ด่านรักษาความมั่นคง รวม 30 แห่ง และฐานทัพทหาร 1 แห่ง
ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีชาวโรฮิงญา 59 คน ตำรวจ 10 นาย ทหาร 1 นาย และเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมือง 1 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวชาวโรฮิงญาผู้ก่อเหตุได้ 1 คน
กองทัพกอบกู้โรฮิงญารัฐยะไข่ (Arakan Rohingya Salvation Army (ARSA)) ได้ออกมาประกาศว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว พร้อมกับเตือนถึงการโจมตีครั้งต่อๆไปที่อาจเกิดขึ้น
สถานการณ์ในรัฐยะไข่ได้ทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงของเมียนมาได้เริ่มปฏิบัติการกวาดล้างชาวโรฮิงญาครั้งใหม่