นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะประชุมร่วมกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในการประชุมที่จะจัดขึ้นในเมืองวลาดิวอสตอค วันที่ 7 ก.ย.นี้ โดยมีแนวโน้มว่า วาระสำคัญของการประชุมคือแนวทางการรับมือกับความตึงเครียดเหนือคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่เข้ามาบดบังข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะที่มักจะตกป็นประเด็นหลักสำหรับผู้นำทั้ง 2 ประเทศ
นายอาเบะหวังว่า จะได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเรื่องการเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือผ่านมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNSC) หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ณ ขณะนี้
จากการที่นายอาเบะได้สนทนากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐ และนายมูน แจ อิน ปธน.เกาหลีใต้ อีกครั้งผ่านทางโทรศัพท์ ต่างเห็นพ้องที่จะเพิ่มแรงกดดันในระดับสูงสุดต่อเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ นายอาเบะได้กล่าวในการประชุมกับพรรคเสรีประชาธิปไตยของตนว่า "ญี่ปุ่นจะเป็นผู้นำในการเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือร่วมกับประชาคมนานาชาติ"
ในทางกลับกัน แม้รัสเซียจะออกมาประณามการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่รัสเซียก็มีความคิดเห็นว่า การเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือนั้นเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์ปัจจุบันรุนแรงมากยิ่งขึ้น
รมว.ต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่หลังการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือว่า "เราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหวนกลับไปยังกระบวนการพูดคุยและเจรจาในทันที เพราะเป็นเพียงหนทางเดียวในการแก้ไขปัญหาเหนือคาบสมุทรเกาหลีอย่างครอบคลุม รวมถึงปัญหาการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์"
ทั้งนี้ ทางฝั่งญี่ปุ่นและสหรัฐต้องการให้มติครั้งใหม่ของ UNSC ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับเกาหลีเหนือ อาทิ การระงับการขายสินค้าประเภทน้ำมัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดอุปทานน้ำมันและควบคุมรายได้จากการค้าของเกาหลีเหนือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ