สภาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4 คนจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้ออกมาคัดค้านแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้
สภาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ออกมาคัดค้านในครั้งนี้ รวมถึง นายออร์ริน แฮทช์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภา และนายเควิน เบรดี้ ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภานิติบัญญัติ
"เราไม่ควรถอนตัวออกจากข้อตกลงนี้" กลุ่มส.ส.ทั้ง 4 คนกล่าวในแถลงการณ์ โดยย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในระดับทวิภาคี หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
"การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ เป็นการตอกย้ำความสำคัญของการร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้อีกครั้ง และข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ ที่มาจากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศและผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสนั้น นับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความร่วมมือดังกล่าว" แถลงการณ์ระบุ
สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐกล่าวว่า เกาหลีใต้เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับที่ 7 ของสหรัฐ อีกทั้งเป็นลูกค้ารายสำคัญของกลุ่มผู้ผลิต, ผู้ให้บริการ, เกษตรกร และผู้ประกอบการฟาร์มปศุสัตว์ของสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐได้แจ้งไปยังเกาหลีใต้ว่า สหรัฐต้องการเริ่มการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรี แต่ทางเกาหลีใต้ไม่ต้องการให้มีการแก้ไข
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐ-เกาหลีใต้เริ่มมีผลบังคับในเดือนมี.ค.2555 สหรัฐมียอดขาดดุลการค้ากับเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น จาก 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 27.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกสินค้าของสหรัฐกลับลดลง