นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสในสังกัดพรรครีพับลิกันจะพิจารณาร่างแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีโดยปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20-25% จากระดับ 35% ในปัจจุบัน
นายไรอันกล่าวว่า เขาต้องการให้สหรัฐปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของประเทศอุตสาหกรรมที่ 22.5% หรือต่ำกว่านั้น แต่ในทางปฏิบัติแล้ว สามารถปรับลดลงมาที่ระดับ 20-25% ขณะเดี่ยวกันก็ย้ำว่า การปรับลดภาษีดังกล่าวลงเหลือ 15% ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยเสนอไว้ก่อนหน้านี้นั้น อาจเป็นไปได้ยาก หากรัฐบาลไม่สามารถจัดหารายได้ทางอื่นเข้าคลัง เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหายได้
ทั้งนี้ นายไรอัน ถือเป็น 1 ใน 6 แกนนำหรือที่เรียกว่า "บิ๊กซิกซ์" ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาเพื่อกำหนดนโยบายปฏิรูปภาษี โดยอีก 5 คนที่เหลือประกอบด้วยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง, นายเควิน แบรดี้ ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้แห่งสภาผู้แทนราษฎร, นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา, นายออร์ริน แฮทช์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภา และนายแกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะยอมประนีประนอมเกี่ยวกับข้อเสนอปรับลดภาษี โดยระบุว่า "การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 15% นั้นเป็นเพียงแค่หลักการเท่านั้น"