คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่ของเมียนมา พร้อมกับเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา ชนกลุ่มน้อยที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
นายเทเคดะ อเลมู ประธาน UNSC เปิดเผยความตกลงของคณะมนตรี หลังมีการประชุมหารือกันภายใน โดยกล่าวว่า "สมาชิก UNSC ได้แสดงความกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่ หลังมีรายงานว่า ชาวโรฮิงญาได้ลุกฮือต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงเมียนมาเมื่อวันที่ 25 ส.ค. และ UNSC ขอประณามความรุนแรงที่ตามมาอันเกิดจากฝ่ายกองกำลังความมั่นคงเมียนมา ซึ่งส่งผลให้ชนกลุ่มน้อยกว่า 370,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่"
"บรรดาสมาชิกของ UNSC ต่างแสดงความกังวลต่อรายงานความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติการของกองกำลังความมั่นคงเมียนมา และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในรัฐยะไข่โดยทันที พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาร่างกฎหมายและกฎระเบียบใหม่ เพื่อให้ความคุ้มครองพลเรือน ฟื้นฟูภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงแก้ปัญหาผู้อพยพ" ประธาน UNSC กล่าว
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวถึงสถานการณ์ในรัฐยะไข่ว่า เป็นความหายนะ พร้อมระบุว่า ผู้ลี้ภัยที่หลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่านับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยมีจำนวนเกือบ 380,000 ราย ซึ่งเขาเรียกร้องให้ทุกประเทศดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านี้