สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือ (KCNA) รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ออกมายืนยันในวันนี้ว่า เป้าหมายสุดท้ายของเกาหลีเหนือคือการเสริมแสนยานุภาพทางทหารให้มีความ "ทัดเทียม" กับสหรัฐอเมริกา และยังกล่าวด้วยว่า ความพยายามของเกาหลีเหนือในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์นั้น ได้ลุล่วงมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว
นายคิม จอง อึน กล่าวว่า "การทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง "ฮวาซอง-12" ข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ซึ่งมีเป้าหมายที่จะยับยั้งความกระหายสงครามของสหรัฐนั้น นับว่าประสบความสำเร็จ โดยขีปนาวุธได้พุ่งลงสู่เป้าหมายที่มหาสมุทรแปซิฟิคอย่างแม่นยำ
"เป้าหมายสุดท้ายของเราคือการสร้างกองทัพให้มีแสนยานุภาพทัดเทียมกับสหรัฐ เพื่อทำให้สหรัฐไม่กล้าที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับเกาหลีเหนือ และเราจะแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า เราสามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างกองทัพนิวเคลียร์ได้ แม้ว่าเราจะถูกจำกัดด้วยมาตรการคว่ำบาตรก็ตาม" นายคิม จอง อึนกล่าว
ถ้อยแถลงของนายคิม จอง อึน มีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางจากกรุงเปียงยาง ข้ามเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น และตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิค เมื่อเวลาประมาณ 07.16 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ โดยขีปนาวุธลูกนี้ไต่ระดับที่ความสูง 770 กิโลเมตรจากพื้นดิน และมีพิสัยในการบินอยู่ที่ 3,700 กิโลเมตร นับเป็นระยะที่ไกลที่สุด และเป็นพิสัยไกลพอที่จะยิงถึงเกาะกวม ซึ่งการกระทำอันเป็นการยั่วยุของเกาหลีเหนือครั้งนี้ ส่งผลให้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีปะทุขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่าการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ เป็นการตอบโต้มติคว่ำบาตรครั้งใหม่จากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยการคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้พุ่งเป้าไปที่การลดส่งออกน้ำมันให้กับเกาหลีเหนือ และห้ามนำเข้าสินค้าสิ่งทอจากเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงที่เกาหลีเหนือใช้ในการสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ