นายทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมา
นายโคโนะได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่ได้พบปะหารือกับนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์กเมื่อวานนี้ ว่า "เรากังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในรัฐยะไข่ของเมียนมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายงานที่ระบุว่ามีการสังหารประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งข้อมูลที่ว่า ประชาชนราว 400,000 คนถูกบีบให้กลายเป็นผู้อพยพ"
นอกจากนี้ นายโคโนะได้แสดงความชื่นชมต่ออาบูล ฮุสซัน มาห์มูด รมว.ต่างประเทศบังกลาเทศ สำหรับการรับผู้อพยพเข้าประเทศ พร้อมกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะมอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่เมียนมาและบังกลาเทศภายในไม่เร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม นายโคโนะกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประณามการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา
ความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 ส.ค. จากการที่ชาวโรฮิงญาได้ลุกฮือโจมตีสถานีตำรวจ ด่านรักษาความมั่นคง รวม 30 แห่ง และฐานทัพทหาร 1 แห่ง ส่งผลให้ทางการเมียนมาตอบโต้ชาวโรฮิงญาอย่างรุนแรง โดยอ้างว่าเป็นปฏิบัติการเพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 100,000 คนต้องอพยพไปยังบังกลาเทศ