นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า อิหร่านจะยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงสากลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่จะใช้มาตรการตอบโต้หากสหรัฐละเมิดข้อตกลงดังกล่าว
"ผมขอยืนยันในที่ประชุมแห่งนี้ว่า อิหร่านจะไม่เป็นฝ่ายแรกที่ละเมิดข้อตกลงดังกล่าว และจะตอบโต้ฝ่ายใดก็ตามที่ละเมิดข้อตกลงนี้อย่างจริงจังและไม่ลังเล" รูฮานีกล่าว
ท่าทีของรูฮานีครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่ว่า จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งสหรัฐได้มีการลงนามในสมัยรัฐบาลบารัค โอบามา เมื่อเดือนก.ค. 2558 ร่วมกับอีก 5 ชาติมหาอำนาจของโลกได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย
"คงเป็นที่น่าเสียดายไม่น้อยหากข้อตกลงฉบับนี้ถูกฉีกโดยอันธพาลที่เป็นมือใหม่ในโลกแห่งการเมือง" รูฮานีกล่าวสวนกลับทรัมป์ หลังจากที่ทรัมป์กล่าวหาอิหร่านว่าเป็น "รัฐอันธพาล" และมองว่าข้อตกลงนิวเคลียร์เป็นเรื่องที่ "น่าอับอาย"
รูฮานียังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "การกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไร้ความรู้ ไร้สาระ และเต็มไปด้วยความเกลียดชังของทรัมป์" เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมในการนำมาพูดในที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติ ที่ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมสันติภาพและการเคารพซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ รูฮานีย้ำว่า การครอบครองอาวุธยุทโธปกรณ์ของอิหร่าน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธ มีไว้เพื่อการป้องกันประเทศเท่านั้น และอิหร่านเองก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด