ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษให้ขยายกรอบมาตรการห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐของพลเมืองเพิ่มอีก 3 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีเหนือ เวเนซุเอลา และชาด พร้อมกับขยายเวลาบังคับใช้มาตรการแบนพลเมืองจาก 5 ชาติมุสลิม ได้แก่ อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซีเรีย และเยเมน โดยกฤษฎีกาฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้กับพลเมืองจากทั้งหมด 8 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.นี้
คณะบริหารของปธน.ทรัมป์ชี้แจงเหตุผลที่เพิ่มเกาหลีเหนือเข้าไปในบัญชีรายชื่อใหม่ว่า เป็นเพราะเกาหลีเหนือไม่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารกับสหรัฐ ขณะที่อีก 7 ประเทศที่เหลือก็ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยสหรัฐในการคัดกรองคนเข้าเมืองเช่นกัน โดยรัฐบาลสหรัฐยืนยันว่า มาตรการแบนพลเมืองจาก 8 ประเทศนี้ ไม่ได้อิงเรื่องชาติกำเนิดหรือศาสนาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กฤษฎีกาฉบับใหม่ได้ถอดซูดานออกจากบัญชีรายชื่อเดิม ซึ่งจะส่งผลให้พลเมืองของซูดานสามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ตามปกติ
ด้านกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐระบุว่า ถึงแม้อิรักจะไม่อยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกแบน แต่ประชาชนอิรักที่เดินทางเข้าสหรัฐจะถูกตรวจคัดกรองด้วยมาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า พลเมืองเหล่านั้นจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ
ทั้งนี้ การลงนามในกฤษฎีกาฉบับใหม่ของทรัมป์มีขึ้นในวันเดียวกับที่คำสั่งแบน 6 ชาติมุสลิมฉบับเดิม ซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 90 วันกำลังจะหมดอายุลง