นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ของ หวังว่า การเดินทางเยือนรัฐยะไข่ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมียนมาและเป็นพื้นที่พักพิงของผู้อพยพชาวโรฮิงญา ของนายฟิลิปโป แกรนดี ประธานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในวันนี้ จะเป็นการบุกเบิกการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ภูมิภาคดังกล่าว
นายดูจาร์ริค กล่าวเพิ่มเติมว่า ประธานหน่วยงานต่าง ๆ ของ UN ในเมียนมาจะเข้าร่วมในการเดินทางที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเมียนมาครั้งนี้ด้วย
"ทาง UN เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมอันจำกัดในพื้นที่ดังกล่าวมาโดยตลอด เราจึงตอบรับคำเชิญของรัฐบาลเมียนมาเพื่อบุกเบิกการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวโรฮิงญา และหวังว่า จะนำไปสู่การเข้าถึงความช่วยเหลือในวงกว้างยิ่ง ๆ ขึ้นไป" นายดูจาร์ริคกล่าวกับบรรดาสื่อมวลชน ณ สำนักงานใหญ่ของ UN กรุงเจนีวา
ด้านนายแกรนดีระบุว่า องค์กรต่างๆ ของ UN ถูกขัดขวางมิให้ดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. จึงไม่สามารถเข้าไปจัดการและมอบความช่วยเหลือใด ๆ ได้ ทั้งนี้ นายแกรนดีเพิ่งเดินทางกลับมาจากการเยือนบังคลาเทศ ซึ่งมีผู้อพยพชาวโรฮิงญาอยู่ถึง 7 แสนราย
นายแกรนดีเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา UN มอบหมายให้องค์การกาชาดสากลคอยให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แต่ประสบกับปัญหาด้านการเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวมาโดยตลอด สำนักข่าวซินหัวรายงาน