สถานทูตตุรกีประจำสหรัฐประกาศระงับการให้บริการวีซ่าประเภท "คนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)" ทั้งหมด ที่สถานทูตและสถานกงสุลของตุรกีในสหรัฐ เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น
สถานทูตตุรกีออกแถลงการณ์ว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้รัฐบาลตุรกีต้องทบทวนคำมั่นสัญญาของรัฐบาลสหรัฐที่มีต่อความมั่นคงของหน่วยงานและบุคลากรด้านการทูตของตุรกี โดยในระหว่างการประเมินสถานการณ์นั้น ตุรกีได้ตัดสินใจระงับการให้บริการวีซ่าประเภท "คนอยู่ชั่วคราว" ทั้งหมด ที่สถานทูตและสถานกงสุลของตุรกีในสหรัฐ เพื่อลดจำนวนผู้ที่จะมาใช้บริการที่สถานทูตและสถานกงสุลของเรา โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวของตุรกีถือเป็นการตอบโต้สถานทูตสหรัฐประจำกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ที่ประกาศระงับการให้บริการวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว ที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐในตุรกี
ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาวระหว่างสหรัฐและตุรกี ซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) นั้น มีขึ้นหลังจากมีการจับกุมตัวนายเมติน โทเปซ พนักงานท้องถิ่นของสถานกงสุลในเมืองอิสตันบูลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในข้อหาจารกรรมและมีส่วนพัวพันกับนายเฟตุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาอิสลาม ซึ่งถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหารในตรุกีเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐประจำตุรกีได้ออกมาประณามการจับกุมตัวนายโทเปซ โดยระบุว่า ตุรกีตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อนายโทเปซโดยไม่มีมูลความจริง และรัฐบาลสหรัฐรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการกระทำดังกล่าว