ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ในวันนี้ โดยระบุว่า ความแตกต่างทางด้านหลักการที่สังคมจีนเผชิญอยู่นั้น ได้เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ระบอบสังคมนิยมในรูปแบบของจีนเองนั้น ได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว
"สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้คือ ความแตกต่างระหว่างการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่เพียงพอ และความต้องการของประชาชนที่ต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น" นายสีกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้นำจีน แถลง ณ มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งวันนี้ว่า วิวัฒนาการความแตกต่างทางด้านหลักการสะท้อนการพลิกผันทางประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งหมด และก่อให้เกิดความจำเป็นที่พรรคคอมมิวนิสต์และประเทศจีนที่จะต้องดำเนินการอะไรใหม่ๆ
ประธานาธิบดีจีน กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ ความแตกต่างทางด้านหลักการจัดอยู่กึ่งกลางระหว่างความต้องการด้านวัตถุและทางวัฒนธรรมของประชาชน และการผลิตทางสังคมที่ล้าหลัง
จีนได้ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชนกว่าหนึ่งพันล้านคน และทำให้การมีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นสิ่งที่เป็นไปได้โดยพื้นฐาน และเร็วๆนี้ จีนจะสร้างสังคมแห่งความมั่งคั่ง ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายด้วยความสำเร็จ
ความต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นกระแสที่ขยายวงกว้างขึ้น ประชาชนจีนมีความต้องการทางวัตถุและทางวัฒนธรรมที่สูงขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ความต้องการด้านประชาธิปไตย หลักนิติธรรม ความเท่าเทียมและความยุติธรรม ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
"ในขณะที่พลังการผลิตในภาพรวมของจีนจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในหลายด้าน ทำให้ศักยภาพการผลิตของเราเป็นผู้นำโลก แต่เราก็ยังมีปัญหา นั่นคือการพัฒนาของเรายังไม่สมดุลและไม่เพียงพอ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการตอบสนองความต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน" นายสีกล่าว