นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีแผนที่จะขออำนาจเพิ่มจากสภาคองเกรส ในเรื่องปฏิบัติการทางทหารในต่างประเทศเพื่อจัดการกลุ่มก่อการร้าย
นายทิลเลอร์สัน ชี้แจงต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ว่า "สหรัฐอเมริกามีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินแคมเปญต่อต้านกลุ่มตาลีบัน อัลกออิดะห์ และกลุ่มอื่นๆรวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) โดยขณะนี้ทางรัฐบาลไม่ได้ขออำนาจเพิ่มจากสภาคองเกรสในการใช้กำลังทางทหาร"
รัฐธรรมนูญสหรัฐระบุว่า อำนาจในการประกาศสงครามเป็นของสภาคองเกรสเท่านั้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐกำลังพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายการให้อำนาจการใช้กองกำลังทางทหาร (AUMF) ฉบับปี 2544 ซึ่งให้อำนาจในการใช้กำลังทหารสหรัฐต่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 และต่อกองกำลังอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
นายทิลเลอร์สัน กล่าวว่า AUMF "ยังคงเป็นรากฐานสำคัญในปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐ และยังคงมีหน้าที่ให้อำนาจทางกฎหมายซึ่งมีความจำเป็นในการเอาชนะภัยคุกคามนี้"
ด้านนายจิม แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ชี้แจงในการพิจารณารอบเดียวกันว่า กฎหมาย AUMF ฉบับใหม่ "ไม่ได้เป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย" ในการจัดการกับคัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย
แม้นายแมททิสไม่ได้คัดค้านกฎหมาย AUMF ฉบับใหม่ แต่เขาก็เปิดเผยว่า กฎหมาย AUMF ฉบับใหม่นั้นไม่ควรจำกัดเรื่องเวลา พร้อมระบุว่า สงครามเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำนายได้