ตลาดการเงินจับตาความคืบหน้าในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานว่า บรรดาแกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐอาจพิจารณาแผนเลื่อนกรอบเวลาของการเริ่มบังคับใช้กฎหมายปฏิรูประบบภาษีออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากพวกเขามีความวิตกว่า การที่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งจากเดโมแครตในศึกเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียและนิวเจอร์ซีย์นั้น อาจทำให้กระบวนการปฏิรูประบบภาษีมีความซับซ้อนมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งจากรีพับลิกันในศึกเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียและนิวเจอร์ซีย์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตยังสามารถกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนรัฐเวอร์จิเนียได้เพิ่มขึ้น รวมถึงมีแนวโน้มที่จะกลับมาครองเสียงข้างมากในวุฒิสภารัฐวอชิงตันอีกด้วย หลังจากที่นางแมนกา ธิงกรา มีคะแนนทิ้งห่างนางจินยัง ลี อิงลุนด์ ในศึกเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเขต 45 ของรัฐวอชิงตัน เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ
ความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งหลายสนามของพรรครีพับลิกันทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของรีพับลิกัน ขณะที่ล่าสุด นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก็ได้ออกมาเปิดเผยด้วยท่าทีที่แบ่งรับแบ่งสู้ว่า การผลักดันแผนปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลอาจดำเนินการล่าช้า เนื่องจากสมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภากำลังพิจารณาทางเลือกอื่นๆด้วย ขณะที่วอชิงตันโพสต์รายงานว่า วุฒิสมาชิกรีพับลิกันอาจบรรจุกรอบเวลาใหม่ของการปฏิรูประบบภาษีลงในร่างกฎหมายฉบับใหม่ของวุฒิสภาซึ่งคาดว่าอาจจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของวุฒิสภาที่มีการจำกัดขอบเขตของผลกระทบจากร่างกฎหมายใดๆที่มีต่อการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายไรอัน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายภาษีของสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ทั้งสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาต่างก็พยายามผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของตนเอง และกำลังอภิปรายถึงข้อดีและข้อเสียต่างๆ ก่อนที่จะมีการเจรจาหารือกันในสภาคองเกรส เพื่อปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาที่มีความแตกต่างในขั้นสุดท้าย โดยไรอันกล่าวเสริมว่า วุฒิสภาเองก็ต้องการผลักดันร่างกฎหมายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงคาดหวังว่า ในท้ายที่สุดแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับทุกฝ่าย
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในสัปดาห์ที่แล้ว โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดจำนวนขั้นบันไดในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%