สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงองค์การสหประชาชาติ (UNSC) ได้เปิดฉากหารือกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับการขยายเวลาในการตรวจสอบเพื่อระบุตัวผู้ที่จะต้องรับผิดชอบในกรณีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
ทั้งนี้ องค์การที่ทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวคือ "Joint Investigative Mechanism (JIM)" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างองค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) และสหประชาชาติ
เอกอัคราชทูตสวีเดนประจำสหรัฐเปิดเผยว่า "การเจรจาหารือยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น เรายังหวังว่าจะมีแนวทางแก้ไขเพื่อเริ่มกลไกล JIM อีกครั้ง ซึ่งแม้ว่ามันจะล่าช้ามากแล้ว แต่เราจะไม่ยอมแพ้" พร้อมกับกล่าวว่า "เราขอสนับสนุนให้สหรัฐและรัสเซียประณีประนอมกันได้ในประเด็นนี้"
หน่วยงาน JIM ก่อตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อตรวจหาบุคคล องค์กร คณะบุคคล หรือรัฐบาล ที่มีการกระทำผิดกฎหมาย มีการจัดตั้ง ให้การสนับสนุน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
นายเอ็ดมอนด์ มูเล็ต หัวหน้าคณะสอบสวนเปิดเผยในช่วงก่อนหน้านี้ว่า JIM ได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธเคมี 2 เหตุการณ์ด้วยกัน ได้แก่เหตุการณ์ 4 เม.ย. 2560 ในเมืองข่าน เชคุน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย และอีกครั้งหนึ่งที่เมืองอุมฮูช เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีที่เมืองข่าน เชคุน นั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 80 ราย ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอ้างว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้สั่งให้มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีนี้ ขณะที่ฝั่งรัฐบาลซีเรียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นฝีมือของฝ่ายกบฏ