คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ยังไม่สามารถผ่านร่างมติต่ออายุการทำงานของคณะกลไกสืบสวนร่วม (JIM) ขององค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) และการเดินหน้าสืบสวนเหตุการณ์โจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย
ร่างข้อมติดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสมาชิก 11 ประเทศ คัดค้าน 2 ประเทศ และงดออกเสียงอีก 2 ประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของ UNSC ลงมติคัดค้าน จึงทำให้ร่างข้อมติเป็นอันตกไป
ส่วนจีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมาชิกถาวรของ UNSC งดออกเสียง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เดิมที UNSC จะเปิดการลงมติร่างข้อมติ 2 ฉบับเพื่อต่ออายุการทำงานของ JIM ที่จะสิ้นสุดลงในวันนี้ แต่รัสเซียได้ใช้สิทธิยับยั้งตั้งแต่การลงมติยังไม่ทันเริ่ม โดยอ้างเหตุผลด้านการดำเนินงาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. รัสเซียและสหรัฐต่างฝ่ายต่างเวียนเอกสารประชันกันเกี่ยวกับการต่ออายุการทำงานของ JIM ซึ่งต่อมาในวันที่ 7 พ.ย. นายเอ็ดมอนด์ มูเล็ต หัวหน้าคณะสอบสวนของ JIM ได้ชี้แจงรายงานขั้นสุดท้ายต่อ UNSC ขณะที่ผู้แทนรัสเซียได้ถือโอกาสนี้วิจารณ์ JIM ว่าทำงานไม่ได้มาตรฐานอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
หน่วยงาน JIM ก่อตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อตรวจหาบุคคล องค์กร คณะบุคคล หรือรัฐบาล ที่มีการกระทำผิดกฎหมาย มีการจัดตั้ง ให้การสนับสนุน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
ทั้งนี้ JIM ได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธเคมี 2 เหตุการณ์ด้วยกัน ได้แก่เหตุการณ์ 4 เม.ย. 2560 ในเมืองข่าน เชคุน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย และอีกครั้งหนึ่งที่เมืองอุมฮูช เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีที่เมืองข่าน เชคุน นั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 80 ราย ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอ้างว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้สั่งให้มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีนี้ ขณะที่ฝั่งรัฐบาลซีเรียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นฝีมือของฝ่ายกบฏ