ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า การสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งนั้นใกล้มาถึงบทสรุปแล้ว โดยนอกเหนือจากการสอบสวนประเด็นรัสเซียแทรกแซงผลการเลือกตั้งแล้ว นายมุลเลอร์ยังมีหน้าที่ตรวจสอบกรณีการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของปธน.ทรัมป์ ซึ่งเริ่มเปิดฉากขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ปลดนายเจมส์ โคมีย์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เมื่อวันที่ 9 พ.ค.
การสอบสวนดังกล่าวมุ่งไปที่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลดนายเจมส์ โคมีย์ ซึ่งประกอบไปด้วยนายเจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ นายร็อด โรเซนสไตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม เช่นเดียวกับนางสาวโฮป ฮิคส์
นอกจากนี้ นายมุลเลอร์ยังได้ยื่นเรื่องขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่นายเซสซันส์ ขอถอนตัวจากการสอบประเด็นรัสเซียด้วย หลังจากเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นายเซสซันส์ ได้ประกาศว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการสืบสวนทั้งในปัจจุบันและอนาคต กรณีที่รัสเซียอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์