เมื่อช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ผ่านมา ชาวมุสลิมได้มารวมตัวกันในมัสยิดเพื่อร่วมพิธีละหมาด แต่กลับต้องถูกสังเวยชีวิตไปกว่า 300 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้บุกเข้ากราดยิงและปาระเบิดใส่มัสยิดในเมืองเล็กๆในจังหวัดนอร์ท ไซไน ที่มีพรมแดนติดกับอิสราเอลและฉนวนกาซาของปาเลสไตน์
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายในนอร์ท ไซไนที่สวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ซึ่งกลุ่มนี้ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุการณ์ก่อการร้ายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในอียิปต์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม IS เองกำลังถูกกวาดล้างครั้งใหญ่ในซีเรียและอิรัก
"ผมเชื่อว่าเหตุโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ การไร้แบบแผน และความสับสน และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดการก่อการร้ายในอียิปต์ ผู้ก่อการร้ายไม่เคยโจมตีชาวมุสลิมในมัสยิดในระหว่างพิธีละหมาดหมู่ในวันศุกร์มาก่อน การโจมตีครั้งนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และขัดแย้งแย้งกับจุดยืนของกลุ่มก่อการร้าย" โมฮัมเหม็ด คาชคูช ศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำ Nasser Supreme Military Academy ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
คาชคูชกล่าวว่า การกวาดล้างกลุ่ม IS ในซีเรีย อิรัก และลิเบีย ส่งผลกระทบต่อกลุ่มพันธมิตรในไซไนที่กำลังเผชิญกับความขัดสนทางการเงินอันเนื่องมาจากการถูกปิดล้อม "ปฏิบัติการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความล้มละลายเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา นำไปสู่การก่อการร้ายที่ไร้แบบแผนเพื่อข่มขวัญผู้คน" คาชคูชกล่าว พร้อมย้ำด้วยว่า การโจมตีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมแสดงให้เห็นว่า ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับศาสนาอิสลาม หรือมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อศาสนาตามที่กล่าวอ้างในตอนแรก
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า โศกนาฏกรรมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ากลุ่มก่อการร้ายในไซไนส่วนใหญ่ที่สวามิภักดิ์ต่อกลุ่ม IS นั้น ได้เปลี่ยนแผนปฏิบัติการณ์จากเดิมที่เน้นการเผชิญหน้ากับกองทัพและตำรวจอียิปต์ ไปเป็นการเผชิญหน้าโดยตรงกับประชาชนอียิปต์โดยไม่เลือกศาสนาแทน
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังคาดหวังว่า รัฐบาลจะออกมาตรการรักษาความมั่นคงเพื่อตอบโต้ขบวนการก่อการร้าย และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของรัฐบาลในการรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยและเสถียรภาพในประเทศ และลดกระแสความโกรธแค้นของชาวไซไนที่อาจนำไปสู่การต่อสู้กันเองระหว่างประชาชนและกลุ่มผู้ก่อการร้าย
"เหตุการณ์โจมตีมัสยิดในหมู่บ้านเล็กๆจังหวัดนอร์ท ไซไนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงแนวคิดของกลุ่มก่อการร้ายที่ผิดแปลกไปจากเดิม" ซาลาห์ ซามัค ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าว
"เนื่องจากอียิปต์เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทางการเมืองและเศรษฐกิจ กลุ่มผู้ก่อการร้ายจึงพยายามอย่างหนักเพื่อทำลายภาพลักษณ์ด้านความมั่นคงของประเทศด้วยการโจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์และไร้อาวุธ" ซามัคกล่าว พร้อมย้ำว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของกลุ่มก่อการร้ายในการท้าทายหน่วยงานด้านความมั่นคงแบบซึ่งๆหน้า
บทวิเคราะห์โดย มามูด ฟูลีย์
สำนักข่าวซินหัวรายงาน