สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงเน้นย้ำเกี่ยวกับกับความสำคัญของเสรีภาพทางศาสนาในระหว่างการประชุมร่วมกับผู้นำกองทัพของเมียนมาเมื่อวานนี้ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเดินทางเยือนเมียนมาในช่วงเวลาที่เมียนมากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติเกี่ยวกับการขับไล่ชาวมุสลิมโรฮิงญานับพันคนออกจากประเทศ
ในระหว่างการประชุมร่วมกันที่โบสถ์เซนต์แมรีในเมืองย่างกุ้ง นายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมากล่าวว่า เมียนมาเป็นประเทศที่ให้ "สิทธิเสรีภาพทางศาสนา" และ "ไม่มีการแบ่งแยกทางศาสนา" และย้ำว่าไม่มีการแบ่งแยกชนกลุ่มน้อยใดๆภายในประเทศ
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงตรัสชื่นชมความพยายามของเมียนมาในการนำมาซึ่งสันติภาพ พร้อมย้ำว่า การพัฒนาทางการเมืองของเมียนมาจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อประชาชนสามารถปฏิบัติตามหลักศาสนาของตนได้ และทุกคนต่างเคารพซึ่งกันและกัน
การประชุมร่วมกันครั้งนี้มีเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดี แต่ถูกเลื่อนมาเป็นเมื่อวานนี้ ก่อนหน้าที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะทรงหารือร่วมกับนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ที่กรุงเนปิดอว์ 1 วัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของพระสันตะปาปาฟรานซิสมีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากองค์การสหประชาชาติ (UN) และประชาคมโลกที่ต้องการให้รัฐบาลเมียนมายุติการใช้กำลังทางทหารที่เกินกว่าเหตุต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา จนส่งผลให้ขาวโรฮิงญาต้องอพยพข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ