นายลินด์ซีย์ แกรห์ม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาเตือนว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้มีการแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง ในประเด็นการสืบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งนั้น อาจทำให้ปธน.ทรัมป์เป็นภัยเสียเองเนื่องจากเป็นคดีอาญา
ถ้อยแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับฝ่ายนิติบัญญัติทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งต่างได้ออกมาแสดงความกังวลในประเด็นเดียวกันนี้
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาไม่เคยขอให้นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยุติการสอบสวนนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่นายโคมีย์เคยให้การไว้
นายโคมีย์ เคยให้การไว้ว่า ปธน.ทรัมป์เป็นผู้ขอให้ตนกล่าวปฏิญานแสดงความจงรักภักดี หรือไม่เช่นนั้นก็ยุติการสืบสวนนายไมเคิล ฟลินน์
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า นายไมเคิล ฟลินน์ ถูกไล่ออกเพราะเขาได้โกหกต่อนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี และ FBI เอง
เมื่อพิจารณาจากข้อความบนทวิตเตอร์ทั้งสองครั้งนี้แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากปธน.ทรัมป์ทราบว่านายฟลินน์ได้โกหกต่อ FBI อยู่ก่อนแล้ว แต่ยังกดดันให้นายโคมีย์เลิกสอบสวนนายฟลินน์ ก็เท่ากับว่าปธน.ทรัมป์เสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ดี นายจอห์น ดาวด์ ทนายของปธน.ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบว่า ตนเป็นผู้เขียนข้อความบนทวิตเตอร์เรื่องนายไมเคิล ฟลินน์ ข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากปธน.ทรัมป์แต่เพียงผู้เดียว โดยนายดาวด์เปิดเผยว่า กว่าปธน.ทรัมป์จะทราบเรื่องที่นายฟลินน์โกหกต่อ FBI นั้นก็ตอนที่นายฟลินน์ถูกตั้งข้อกล่าวหาแล้ว
นายดาวด์ได้แสดงความขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด และตนจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเขียนข้อความบนทวิตเตอร์ให้ปธน.ทรัมป์อีก