โฆษกของประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้โทรศัพท์แจ้งปธน.อับบาสว่า เขามีความประสงค์ที่จะย้ายสถานทูตสหรัฐประจำอิสราเอลจากกรุงเทลอาวิฟไปยังกรุงเยรูซาเลม
โฆษกยังเปิดเผยว่า ปธน.อับบาสได้เตือนถึงผลกระทบที่อันตรายจากการตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลต่อกระบวนการสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพของภูมิภาค และต่อโลก
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะให้การรับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะทำการประกาศการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้
เจ้าชายคาลิด บิน ซาลมาน เอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำสหรัฐ กล่าวว่า การที่สหรัฐประกาศสถานะของกรุงเยรูซาเลมก่อนที่จะได้ข้อสรุปในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ จะกระทบต่อกระบวนการสันติภาพ และเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค
รัฐบาลซาอุดิอาระเบียออกแถลงการณ์เตือนสหรัฐให้ตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงที่จะตามมา หากสหรัฐให้การยอมรับกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งจะกระทบต่อความรู้สึกของชาวมุสลิมทั้งโลก
ทางด้านนางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวเตือนว่า สถานะของกรุงเยรูซาเลมควรถูกกำหนดผ่านทางการเจรจา ขณะที่ EU มีจุดยืนในการสนับสนุนแนวทางการตั้งรัฐปาเลสไตน์ และอิสราเอล โดยสหรัฐควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะเป็นการบ่อนทำลายความพยายามสร้างสันติภาพ