รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติร่างงบประมาณกลาโหมสำหรับปีงบประมาณ 2561 ซึ่งมีมูลค่ารวม 5.19 ล้านล้านเยน (4.6 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อจัดซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่และขีปนาวุธทางทะเล ท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มสูงขึ้นจากเกาหลีเหนือ
มูลค่าร่างงบประมาณเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เชื่อมโยงกับฐานทัพของสหรัฐ และนับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันภายใต้รัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และการคุกคามทางทะเลของจีน
ทั้งนี้ งบประมาณมูลค่า 730 ล้านเยนจัดเตรียมไว้สำหรับการเปิดตัวระบบป้องกันขีปนาวุธ Aegis ที่พัฒนาโดยสหรัฐ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มเกราะป้องกันขีปนาวุธที่มีอยู่ ได้แก่ ระบบป้องกันขีปนาวุธ Aegis ที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธสกัดกั้นแบบ Standard Missile 3 และระบบขีปนาวุธสกัดกั้นแบบ Patriot Advanced Capability 3 ซึ่งติดตั้งที่ภาคพื้นดิน
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังจัดสรรเงินประมาณ 4.4 หมื่นล้านเยนไว้สำหรับเครื่องบินสกัดกั้นขีปนาวุธรุ่น SM-3 Block 2A ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งพัฒนาร่วมกับสหรัฐ อีกทั้งยังมีมาตรการจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงระบบบัญชาการและระบบควบคุมทางอากาศให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกประมาณ 4.7 พันล้านเยน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยิงขีปนาวุธหลายลูกพร้อมๆกันหรือพิสัยไกลแบบเดียวกับที่เกาหลีเหนือติดตั้ง