สหรัฐประกาศคว่ำบาตรชาวเกาหลีเหนือ 2 รายในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธ โดยกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ใดๆของบุคคลดังกล่าวในสหรัฐจะถูกระงับ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมใดๆโดยชาวอเมริกันที่เกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วถือเป็นสิ่งต้องห้ามด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จากการที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธหลายครั้ง ขณะที่สหรัฐและเกาหลีใต้ยังได้ดำเนินการซ้อมรบร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจของตลาดการเงินอีกครั้ง หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติเป็นเอกฉันท์ 15 ต่อ 0 ในการผ่านมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยลดการส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ และเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดการลักลอบขนส่งและใช้แรงงานเกาหลีเหนือในต่างประเทศ เพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือกรณีทดสอบขีปนาวุธเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา
ทางด้านเกาหลีเหนือออกมาประกาศในเวลาต่อมาว่า เกาหลีเหนือจะไม่ยอมรับมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ของ UNSC อย่างเด็ดขาด พร้อมประกาศลั่นว่าจะเพิ่มการป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (nuclear deterrence) เพื่อป้องกันตนเอง นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวว่า การคว่ำบาตรที่นำโดยสหรัฐนั้นเป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศอย่างร้ายแรง และยืนยันว่าอาวุธนิวเคลียร์ถือเป็นการป้องกันตนเอง ซึ่งไม่ขัดแย้งกับกฎหมายสากล