เจ้าที่หน้ารัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและผู้นำสภาคองเกรสจากทั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐได้จัดการหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณ โดยมีการพูดคุยถึงลำดับความสำคัญของข้อเสนอด้านรายจ่ายของทั้ง 2 พรรค
แถลงการณ์ร่วมจากทำเนียบขาว, สำนักงานของผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และสำนักงานโฆษกสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า "เรามีการพูดคุยกันอย่างชัดเจนกันในเรื่องลำดับความสำคัญของงบประมาณตั้งแต่เริ่มต้น และหวังว่าการหารือในรอบต่อไปจะนำไปสู่ข้อสรุปโดยเร็ว"
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันได้เสนอของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้จ่ายด้านการทหารและสร้างกำแพงตามแนวชายแดน ในขณะเดียวกันก็ยืนกรานว่า "สมาชิกสภาคองเกรสไม่ควรหยิบยกเรื่องประเด็นเรื่องงบประมาณมาเกี่ยวข้องกับนโยบายผู้อพยพ"
ขณะที่สภาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตได้เรียกร้องให้มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทหารให้เทียบเท่าโครงการด้านการทหาร อีกทั้งยังเสนอให้มีการคุ้มครองผู้อพยพที่เดินทางมาพักพิงอยู่ในสหรัฐตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ต้องถูกขับออกนอกประเทศเนื่องจากทำเนียบขาวตัดสินใจยุติโครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals)
การเจรจางบประมาณครั้งนี้คาดว่าจะเป็นแนวทางสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2561 ตลอดจนปีงบประมาณ 2562
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงก่อนวันหยุดคริสต์มาสที่ผ่านมา สภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น เพื่อทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. ส่งผลให้สภาคองเกรสต้องหาข้อสรุปกฎหมายงบประมาณให้ได้ก่อนวันที่ 19 ม.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการ "ชัตดาวน์" ของหน่วยงานรัฐบาล