นายสตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้านักวางกลยุทธ์ประจำทำเนียบขาว ได้ออกมากล่าวขอโทษในกรณีที่เขาได้แสดงความเห็นในหนังสือเล่มใหม่ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีบุตรชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นคนทรยศต่อประเทศชาติ หลังจากที่บุตรชายของทรัมป์ได้พบปะกับทนายความชาวรัสเซียที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์เมื่อปี 2559
ทั้งนี้ นายแบนนอนได้แถลงผ่านเว็บไซต์ Axios เพื่อกล่าวคำขอโทษ โดยมีใจความว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เป็นคนดีและรักชาติ เขามุ่งมั่นสนับสนุนคุณพ่อของเขาและผลักดันนโยบายต่างๆซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่อประเทศของเรา"
"การแสดงความเห็นในหนังสือเล่มนั้น ผมตั้งใจจะกล่าวถึงนายพอล มานาฟอร์ท หนึ่งในทีมหาเสียงที่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับรัสเซีย เขาควรรู้ว่ารัสเซียนั้นเจ้าเล่ห์และไม่ใช่เพื่อนของเรา" นายแบนนอนกล่าว
นอกจากนี้ นายแบนนอนยืนยันว่า เขาจะสนับสนุนปธน.ทรัมป์และนโยบายต่างๆของทรัมป์ต่อไป พร้อมกับกล่าวคำขอโทษที่เขาออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ช้าเกินไป
ก่อนหน้านี้ นายแบนนอนได้แสดงความเห็นในหนังสือเรื่อง "Fire and Fury : Inside the Trump White House" ของนายไมเคิล วูล์ฟ ซึ่งอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของบุคคลต่างๆราว 200 คน โดยนายแบนนอนกล่าวว่า การที่บุตรชายของปธน.ทรัมป์ พร้อมด้วยสมาชิกทีมหาเสียง และทนายความชาวรัสเซียรายหนึ่ง ได้พบปะกันเมื่อปี 2559 ที่ตึกทรัมป์ทาวเวอร์นั้น ถือเป็นการ "ขายชาติ" และ "ไม่รักชาติ"
การแสดงความเห็นด้านลบของนายแบนนอนได้สร้างความไม่พอใจให้กับปธน.ทรัมป์เป็นอย่างมาก โดยทรัมป์กล่าวว่า นายแบนนอน เสียสติ และ ไม่มีอิทธิพลใดๆต่อรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ นายแบนนอนเคยเป็นประธานบริหารแคมเปญหาเสียงของปธน.ทรัมป์ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 โดยเขาได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้านักวางกลยุทธ์ประจำทำเนียบขาวหลังปธน.ทรัมป์ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค. 2560 และได้ออกจากทำเนียบขาวเมื่อเดือนส.ค. เพื่อกลับไปนั่งเก้าอี้ประธานบริหารของเว็บไซต์ข่าวขวาจัดอย่าง "เบรตบาร์ตนิวส์"