นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐตัดสินใจที่จะขยายเวลาผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 นั้น ถือเป็นความล้มเหลวของคณะทำงานปธน.ทรัมป์ที่ต้องการจะคว่ำข้อตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐจะขยายเวลาผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 แต่ถึงกระนั้น ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าตนจะนำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนี้ หากไม่มีการแก้ไขข้อตกลงบางส่วน
นายรูฮานีกล่าวว่า "ผมรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ทำเนียบขาวประสบความล้มเหลวในการคว่ำและปรับเปลี่ยนข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งนี่เป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ ทั้งในแง่ของคุณธรรม และกฎหมาย"
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะที่มีการละเมิดหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์เปิดเผยในวันดังกล่าวว่า สหรัฐจะยังไม่ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่จะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อตกลงฉบับปัจจุบันเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ต่ออิหร่าน ปธน.ทรัมป์วิจารณ์ข้อตกลงนิวเคลียร์มาโดยตลอด โดยข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทางด้านนายจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน และหัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์ของประเทศ ได้ออกมาย้ำว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ ในปี 2558 อิหร่านและชาติมหาอำนาจทั้ง 6 ประเทศได้แก่อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐ ได้ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่บังคบให้อิหร่านยุตการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อแลกกับการไม่ถูกคว่ำบาตรโดยนานาชาติ