อายาตุลเลาะห์ ซาเดค อาโมลี ลาริจานี เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายตุลาการของอิหร่าน ประกาศให้คำมั่นว่า อิหร่านพร้อมจะตอบโต้การคว่ำบาตรบุคคลและและองค์กรของสหรัฐด้วย "วิธีการที่เท่าเทียม"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายลาริจานี ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร ประกาศว่าการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการ ถือเป็นการ "ข้ามเส้นแดงระหว่างประเทศ" พร้อมยืนยันว่าอิหร่านจะไม่นิ่งเฉยต่อการคว่ำบาตรของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นายลาริจานีไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติม
"สหรัฐควรรู้ว่าทุกการกระทำที่ไม่เป็นมิตรจะถูกตอบโต้ในทำนองเดียวกันโดยอิหร่าน" นายลาริจานีกล่าว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐตกลงที่จะขยายระยะเวลาผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกคำสั่งคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรจากอิหร่านฉบับใหม่เพิ่มอีก 14 รายในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและโครงการนิวเคลียร์
นายลาริจานีกล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่สหรัฐลงนามไว้ในปี 2558 ไม่สามารถแก้ไขหรือโยงเข้ากับประเด็นอื่นๆได้
ข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี โดยข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้กลุ่มประเทศ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะขยายระยะเวลาผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านหรือไม่ในทุกๆ 120 วัน
ด้านปธน.ทรัมป์ซึ่งยินยอมขยายระยะเวลาผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งล่าสุด ได้ขู่ว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงฉบับนี้ หากสภาคองเกรซและชาติพันธมิตรยุโรปไม่ร่วมกันแก้ไขสิ่งที่เขามองว่าเป็น "ข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง"