กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้เปิดเผยรายงาน "การทบทวนบทบาทนิวเคลียร์ (Nuclear Posture Review) " หรือ NPR ฉบับใหม่เมื่อวานนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินนโยบายด้านนิวเคลียร์ในอนาคต โดยระบุว่า "แสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐยังคง 'มีความยืดหยุ่น' ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความเชื่อมั่นว่า การคุกคามใดๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการคุกคามด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์นั้น จะไม่สามารถโจมตีสหรัฐและบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐได้ นอกจากนี้ ผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับสหรัฐและประเทศพันธมิตรของสหรัฐ อาจเสี่ยงที่จะเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมาทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
รายงาน NPR ประจำปี 2561 ของสหรัฐยังระบุด้วยว่า สหรัฐจะดัดแปลงหัวรบขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวนไม่มาก มาใช้เป็นทางเลือกในภารกิจที่คาดหวังผลต่ำ และในอนาคตนั้น จะมีการใช้ขีปนาวุธร่อน (cruise missile) ที่ติดอาวุธนิวเคลียร์อันทันสมัย โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มแสนยานุภาพในการป้องกันผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นศัตรู เช่น รัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงาน NPR ฉบับล่าสุดของสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ปฏิเสธที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการตอบโต้การโจมตีทุกรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ตาม นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังมีเนื้อหาที่แตกต่างจากนโยบายนิวเคลียร์ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเคยให้คำมั่นสัญญาว่า "จะดำเนินนโยบายให้ทั่วโลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์"
ในรายงานทบทวนนโยบายนิวเคลียร์ของโอบามาเมื่อปี 2553 นั้น โอบามากล่าวว่า คณะทำงานของเขาจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ร้ายแรงจนถึงขั้นวิกฤต เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐและประเทศพันธมิตรของสหรัฐ