รายงานของคณะกรรมาธิการที่รับผิดชอบด้านการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ละเมิดมติการคว่ำบาตรด้วยการลักลอบส่งออกสินค้าเกือบทุกประเภทที่ถูกห้ามตามมติของ UN ซึ่งรวมถึงถ่านหิน ส่งผลให้เกาหลีเหนือมีรายได้เป็นจำนวนมากเกือบ 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2560 นอกจากนี้ รายงานยังระบุถึงหลักฐานที่ว่า เกาหลีเหนือได้จัดหาระบบขีปนาวุธให้กับเมียนมา ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ เพื่อลงโทษต่อการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 และถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมา
มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะจำกัดการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือที่ระดับ 400.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.5 ล้านตันในแต่ละปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือลดลง 60% หรือคิดเป็นเงินราว 700 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยUNSC คาดหวังว่า รายได้ที่ลดลงจากการจำหน่ายถ่านหินของเกาหลีเหนือ จะทำให้เกาหลีเหนือขาดแคลนเงินทุนในการพัฒนาโครงการขีปนาวุธ และระเบิดนิวเคลียร์ นอกจากนี้ UNSC ยังมีมติห้ามเกาหลีเหนือส่งออกทองแดง นิกเกิล โลหะเงิน และสังกะสี คิดเป็นมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี