นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายพลมาร์ค มิลลีย์ เสนาธิการทหารบกสหรัฐ ยืนยันว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น รวมทั้งจะกระชับความร่วมมือกับเกาหลีใต้ ในการจัดการกับเกาหลีเหนือ
กระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะและนายพลมาร์ค มิลลีย์ ได้เห็นพ้องกันถึงความสำคัญในการยกระดับมาตรการกดดันเกาหลีเหนือให้ถึงขีดสุด เพื่อนำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ถาวร และตรวจสอบได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอาเบะได้เริ่มต้นการประชุมโดยอ้างถึงการหารือเรื่องเกาหลีเหนือระหว่างตนกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเขากล่าวว่า "ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกากำลังก้าวไปด้วยกัน และมีความเห็นพ้องกันทั้งหมดเกี่ยวกับแนวทางในการจัดการกับประเด็นนี้"
ด้านนายพลมิลลีย์ กล่าวว่า "พันธไมตรีระหว่างสหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นนั้นสำคัญยิ่งกับประเทศของผม ซึ่งแข็งแกร่งเหมือนหิน โดยเราขอยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่น และกองทัพญี่ปุ่น เช่นเดียวกับชาวเกาหลีใต้ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น"
นายพลมิลลีย์ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีอาเบะด้วยว่า ตนมีแผนที่จะเดินทางไปยังเกาะอิโวโตะ หรือเดิมชื่อเกาะอิโวจิมะ ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ห่างจากกรุงโตเกียวไปประมาณ 1,200 กม. เนื่องในโอกาสครบรอบที่กองทัพสหรัฐได้ยกพลขึ้นเกาะดังกล่าวเมื่อปี 2488 และได้กลายเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดเป็นอันดับต้น ๆ ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนี้ นายพลมิลลีย์ยังเปิดเผยว่า บิดาของตนได้ร่วมรบบนเกาะนี้ด้วย
นอกจากเข้าพบนายกรัฐมนตรีอาเบะแล้ว ก่อนหน้านั้นนายพลมิลลีย์ยังได้พบปะกับนายอิตซึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ที่กระทรวงกลาโหมด้วย