นายไฮโก มาส รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีพร้อมที่จะเจรจาและพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซีย หลังเกิดเหตุการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลัง และนำไปสู่การขับเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซียออกนอกประเทศ
นายมาสให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Bild am Sonntag ว่า แม้ความไว้เนื้อเชื่อใจกันจะลดลงมาก อันเนื่องมาจากพฤติกรรมของรัสเซีย แต่เยอรมนีก็ยังต้องการรัสเซียในฐานะพันธมิตร เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในภูมิภาค ยุติการใช้อาวุธ และการเป็นเสาหลักสำคัญของนโยบายพหุภาคี
นายมาสกล่าวว่า "เราพร้อมที่จะจัดการเจรจาระดับทวิภาคี และพยายามที่จะฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างต่อเนื่องหากรัสเซียก็มีความพร้อมเช่นกัน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เยอรมนีได้ร่วมมือกับสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรปในการยืนเคียงข้างอังกฤษ หลังเกิดเหตุอดีตสายลับชาวรัสเซีย เซอร์เก สกรีปอล และบุตรสาว ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้น นักการทูตรัสเซีย 4 รายได้ถูกขับออกจากเยอรมนี ในขณะเดียวกัน รัสเซียจึงได้ตอบโต้โดยการขับนักการทูตเยอรมนี 4 รายออกจากรัสเซีย
นายมาสได้ชี้แจงเกี่ยวกับการขับนักการทูตรัสเซียของเยอรมนีว่า "เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นการแสดงสัญลักษณ์แห่งความสามัคคี"
ทั้งนี้ รัฐบาลรัสเซียขับนักการทูตอังกฤษออกนอกประเทศหลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่รัสเซียจะอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษทำลายระบบประสาทเพื่อโจมตีนายเซอร์เก สกรีปอล อดีตสายลับรัสเซีย แต่ปัจจุบันได้แปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายอังกฤษ และนางยูเลีย ลูกสาวของเขา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองซาลิสเบอรี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.