นายจาง เซียงเฉิน เอกอัคราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยในวันนี้ว่า การที่สหรัฐดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมการค้าของจีนมาตรา 301 นั้น ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของ WTO ที่ว่าด้วยการห้ามเลือกปฏิบัติและตั้งกำแพงภาษี
การแสดงความเห็นของนายจางมีขึ้นหลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนจำนวน 1,300 รายการที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านนายชุย เถียนไค เอกอัคราชทูตจีนประจำสหรัฐกล่าวว่า จีนจะยื่นเรื่องต่อ WTO เพื่อฟ้องร้องกรณีที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวน 1,300 รายการ
ทั้งนี้ USTR ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน
USTR ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ ตั้งแต่สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ การบิน และเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสินค้าจำพวกเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ มาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวยังครอบคลุมถึงสินค้าผู้บริโภคอย่างเครื่องซักผ้า เครื่องกวาดหิมะ และมอเตอร์ไซค์
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที โดยบริษัทสหรัฐจะมีเวลาจนถึงวันที่ 22 พ.ค. ในการแสดงความคิดเห็นเพื่อคัดค้านประเด็นดังกล่าว ซึ่งทาง USTR จะเริ่มเปิดการรับฟังความเห็นจากประชาชนในวันที่ 15 พ.ค.นี้