กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เล็งหยิบยกประเด็นสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือมาเจรจาในระหว่างการประชุมร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสุงสุดของเกาหลีเหนือ เพิ่มเติมจากประเด็นเรื่องการยุติการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
นางฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ในเมื่อเรามีโอกาสที่จะนั่งคุยกับประเทศซึ่งมีความแตกต่างกับเรามากๆนั้น จะต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นตามมาแน่นอน" โฆษกกระทรวงตอบคำถามที่ว่า สหรัฐจะหยิบยกประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือขึ้นมาพูดหรือไม่
"ดิฉันคาดว่าประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนจะมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยด้วยเช่นกัน" นางเนาเอิร์ทกล่าว หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศจะพบกับนายคิมในช่วงเดือนพ.ค.หรือต้นเดือนมิ.ย.
แม้นางเนาเอิร์ทไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียด แต่คาดการณ์กันว่า ประเด็นที่จะมีการพูดคุยกันนั้นรวมถึงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเซ็นเซอร์ในเกาหลีเหนือ, การที่เกาหลีเหนือกักขังหน่วงเหนี่ยวพลเมืองสหรัฐ และเหตุที่ชาวญี่ปุ่นถูกลักพาตัวไปในช่วงทศวรรษที่ 70-80
นางเนาเอิร์ทกล่าวว่า การโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยุติการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์คือ "ประเด็นสำคัญที่สุด" ในการพบปะระหว่างผู้นำทั้งสองชาติ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ตนเองหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงยุติการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือได้
ปธน.ทรัมป์กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "ผมคิดว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเคารพซึ่งกันและกัน และหวังว่า เราจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้"
อย่างไรก็ตาม ทั้งสหรัฐและเกาหลีเหนือยังไม่ได้มีการระบุถึงหมายการประชุมที่แน่ชัด ขณะที่สื่อสหรัฐอ้างว่า เกาหลีเหนือต้องการจัดการประชุมที่กรุงเปียงยาง
ทั้งนี้ สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่า ทั้งสองประเทศอาจเลือกจัดการประชุมที่มองโกเลีย หลังจากที่นายมูน แจ อิน ประชุมกับนายคิมในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ณ เขตปลอดทหารหมู่บ้านปันมุนจอม