นางบูไทนา ชาบาน ที่ปรึกษาทางการเมืองและสื่อประจำตัวนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ได้ประกาศว่า ซีเรียไม่หวั่นต่อสหรัฐที่ได้ขู่ยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย
นางชาบาน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานี al-Mayadeen TV เมื่อวานนี้ว่า การที่สหรัฐได้ขู่ยิงขีปนาวุธถล่มซีเรียนั้นมีเป้าหมายในการกดดันซีเรียเพื่อเอาประโยชน์เข้าตนเอง
นางชาบาน เน้นย้ำว่า ขณะนี้พันธมิตรของซีเรียกำลังอยู่ระหว่างการหารือ โดยจะไม่ยอมให้เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลสหรัฐ
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทวีตข้อความว่า สหรัฐจะยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เพื่อตอบโต้จากการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวรายงานว่า กองกำลังของซีเรียได้ใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีเมืองดูมา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎในเขตกูตาตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย แต่ทางรัฐบาลซีเรียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
นางชาบาน มองว่าคำขู่ของสหรัฐเป็นการทำสงครามจิตวิทยา ซึ่งชาติตะวันตกได้เริ่มต้นขึ้นเพื่อแสดงอำนาจหลังจากที่เคยล้มเหลวมาก่อนในซีเรีย
เธอกล่าวว่า ชัยชนะของกองทัพซีเรียในเขตกูตาตะวันออกนั้น ได้ก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสงครามซีเรีย
นางชาบาน เปิดเผยว่า ผลลัพธ์ของสงครามซีเรียนั้นขัดต่อแนวทางของชาติตะวันตก ในแง่ของการผนึกกำลังเป็นพันธมิตรระหว่างรัสเซีย ซีเรีย และฮิซบุลลอฮ์ โดยเธอเรียกการผนึกกำลังครั้งนี้ว่า "พันธมิตรแห่งอนาคต"
ส่วน "อักษะแห่งการต่อต้าน" (axis of resistance) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของพันธมิตรซีเรียอย่างอิหร่านและฮิซบุลลอฮ์ มีอำนาจในการจัดการกับคำขู่ของสหรัฐด้วยตนเอง โดยบางชาบานกล่าวเสริมว่า กฎแห่งการปะทะนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เอื้อต่อซีเรีย
นางชาบานยังกล่าวด้วยว่า "ชัยชนะของซีเรียจะเปลี่ยนแผนที่ของภูมิภาคและทั้งโลก" พร้อมเสริมว่า ฝั่งอิสราเอลนั้นมีแต่จะพยายามให้สงครามซีเรียยืดเยื้อออกไป
นอกจากนี้ เธอกล่าวว่า อิสราเอลเป็นฝ่ายที่จุดชนวนสงครามในซีเรีย และเสริมว่า ฝั่งซีเรียและรัสเซียนั้นได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว หลังจากที่อิสราเอลได้โจมตีฐานทัพอากาศ T-4 Air Base ของซีเรียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา